แนวทางการรักษาความเจ็บปวด บรรเทาปวดเมื่อมีอาการ
การจัดการความเจ็บปวดเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งในผู้ป่วยที่มีความเจ็บปวดเฉียบพลัน เช่น หลังการผ่าตัด และผู้ป่วยที่มีความเจ็บปวดเรื้อรัง แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความเจ็บปวดจะร่วมกันพัฒนารูปแบบการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาอธิบายว่าทำไมการรักษาความเจ็บปวดจึงมีความสำคัญ? มีแนวทางการรักษาความเจ็บปวดและบรรเทาปวดอย่างไรบ้าง?
ความปวด คืออะไร?
ความปวด คือ ประสบการณ์ส่วนตัวที่สร้างความทุกข์ทรมาน มักเกิดร่วมกับการบาดเจ็บ ประกอบไปด้วยองค์ประกอบด้านความรู้สึก อารมณ์ และสังคม โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
1. ความปวดเฉียบพลัน (Acute Pain)
เกิดขึ้นใหม่
มีระยะเวลาจำกัด
มักมีสาเหตุชัดเจน
หายไปเมื่อพยาธิสภาพหายดี
ตัวอย่าง : ความปวดแผลหลังผ่าตัด หรือหลังอุบัติเหตุ
2. ความปวดเรื้อรัง (Chronic Pain)
ยืดเยื้อยาวนานกว่าการสมานของเนื้อเยื่อ
หาสาเหตุได้ยาก
มักมีอาการปวดนานกว่า 3 เดือน
ตัวอย่าง : โรคข้ออักเสบ, โรคปวดศีรษะเรื้อรัง
การรักษาความเจ็บปวดมีความสำคัญอย่างไร?
ความเจ็บปวดสามารถส่งผลกระทบต่อหลายแง่มุมในชีวิตของเรา ดังนี้
1. คุณภาพชีวิต
ความเจ็บปวดรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ทำงาน ยืดหยุ่นร่างกาย นอนหลับ และมีความสุขได้ยาก
2. ประสิทธิภาพในการทำงาน
ความเจ็บปวดลดประสิทธิภาพการทำงาน ส่งผลต่อรายได้และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
3. อารมณ์
ความเจ็บปวดนำไปสู่ความวิตกกังวล ซึมเศร้า และส่งผลต่อความสัมพันธ์
4. สุขภาพกาย
ความเจ็บปวดเรื้อรัง ส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน
นอกจากนี้การรักษาและควบคุมอาการปวดที่ไม่ดีพอ อาจนำไปสู่ความเจ็บปวดเรื้อรัง สารสื่อประสาทและระบบประสาทเปลี่ยนแปลง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ อาจตามมาได้ เช่น ภาวะซึมเศร้า ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ประเภทของอาการปวด
อาการปวดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
1. ความปวดเฉียบพลัน (Acute Pain)
เกิดขึ้นทันที มักเกิดจากการบาดเจ็บ อุบัติเหตุ การผ่าตัด การอักเสบ หรือติดเชื้อ มักมีระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 3 เดือน เช่น ปวดแผลผ่าตัด ปวดหลังจากหกล้ม ปวดฟัน
2. ความปวดเรื้อรัง (Chronic Pain)
เกิดขึ้นต่อเนื่อง มักไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักมีระยะเวลายาวนานกว่า 3 เดือน ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การทำงาน และอารมณ์ เช่น ปวดหลังเรื้อรัง ปวดข้อเสื่อม ปวดไมเกรน ปวดเส้นประสาท
3. ความปวดจากมะเร็ง (Cancer Pain)
เกิดจากตัวมะเร็งเอง การลุกลามของมะเร็ง หรือผลข้างเคียงจากการรักษา มักมีรูปแบบและความรุนแรงแตกต่างกันไป จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
แนวทางรักษาอาการปวดและบรรเทาปวด
วิธีการรักษาอาการปวดนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภท สาเหตุ และความรุนแรงของอาการปวด โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
1. การรักษาด้วยยา
ยาแก้ปวดชนิดไม่ใช่ยาเสพติด (Non-opioid analgesics) เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน ยาเหล่านี้เหมาะสำหรับอาการปวดระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
ยาแก้ปวดชนิดยาเสพติด (Opioid analgesics) เช่น โคเดอีน มอร์ฟีน ยาเหล่านี้เหมาะสำหรับอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรง แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพราะอาจเกิดผลข้างเคียง
ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน ยาเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบและอาการปวด แต่ควรระวังเรื่องผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร
ยาอื่นๆ เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวดประสาท ยาต้านเศร้า ยาต้านอาการชัก
2. การรักษาโดยไม่ใช้ยา
ประคบร้อนหรือเย็น การประคบร้อนช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด ส่วนการประคบเย็นช่วยลดการอักเสบและบวมได้
การนวดสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และลดอาการปวด
ฝังเข็มช่วยกระตุ้นจุดฝังเข็มบนร่างกายเพื่อลดอาการปวด
การกายภาพบำบัด ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ยืดหยุ่น และลดอาการปวด
3. การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ
การบล็อกประสาท คือวิธีการฉีดยาเพื่อบล็อกสัญญาณความปวด
การกระตุ้นไฟฟ้า คือการใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาทเพื่อลดอาการปวด
การผ่าตัด เป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้
การรักษาอาการปวด หรือการบรรเทาปวด มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน เพราะความเจ็บปวดนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับ การทำงาน ความสัมพันธ์ รวมไปถึงสุขภาพจิต การจัดการความเจ็บปวดอย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
หากคุณประสบกับอาการปวด เราแนะนำให้คุณปรึกษากับทางแพทย์ เพื่อให้แพทย์ระบุสาเหตุของอาการปวด และพัฒนาแผนการจัดการความเจ็บปวดที่เหมาะสมสำหรับคุณ
Sapien Pain Hospital โรงพยาบาลเฉพาะทางที่พร้อมดูแลคุณจากปัญหา ความเจ็บปวด ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะ
อาการเจ็บปวดเรื้อรัง ด้วยวิธีการรักษาที่ทันสมัย หลากหลาย และเหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย รักษาอย่างครบถ้วนทุกขั้นตอน เริ่มต้นจากการวินิจฉัยหาสาเหตุของความเจ็บปวดอย่างละเอียด ก่อนเลือกวิธีการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด