ปวดคอเรื้อรัง มีอาการเป็นยังไง บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพบ้าง
ปวดคอ อาการปวดบริเวณท้ายทอยด้านหลังลำคอเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคยพบเจอจนรู้สึกว่านี่คือเรื่องปกติ จนบ่อยครั้งกลายเป็นความชะล่าใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งทำงานท่าเดิมติดต่อกันนาน ๆ แต่ในความเป็นจริงอาการดังกล่าวอาจมีสาเหตุและความรุนแรงมากกว่าที่คาดคิด ถึงขั้นสร้างอันตรายต่อชีวิตหากละเลยและไม่เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องโดยเฉพาะผู้ที่ปวดคอเรื้อรัง
ลักษณะอาการปวดคอเรื้อรังที่มักเกิดขึ้น
อาการปวดคอเรื้อรัง คือ อาการเจ็บปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ ท้ายทอย ติดต่อกันนานมากกว่า 1 สัปดาห์ หรือมักเป็นๆ หายๆ สามารถแยกได้เป็น 3 ลักษณะ ดังนี้
1. อาการปวดคอทั่วไป
มักปวดตั้งแต่ช่วงท้ายทอย บ่า ลงมาถึงสะบัก ไม่ค่อยอันตรายมากนัก ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากภาวะ Office Syndrome
2. อาการปวดคอจากการถูกกดทับเส้นประสาท
จะรู้สึกปวดบริเวณคอ บ่า สะบักร้าวลงไปถึงแขนร่วมกับอาการชา บางคนกระดกข้อมือหรือขยับนิ้วไม่ได้ ไหล่ยกไม่ขึ้น
3. อาการปวดคอจากการกดทับของไขสันหลัง
ส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการชัดเจน ผู้ป่วยมักรู้สึกปวดคอ บ่า สะบักเรื้อรังร่วมกับการปวดร้าวลงแขน-ขา และอาการชา หากปล่อยไว้นานกล้ามเนื้อตรงมือมักลีบเล็กลง รู้สึกแขน-ขาไม่ค่อยมีแรง หยิบจับของชิ้นเล็ก ๆ หรือทำงานที่ต้องใช้กำลังมือไม่ถนัด สูญเสียการทรงตัว เดินเซ คุมการขับถ่ายไม่ได้
สาเหตุของการปวดคอเรื้อรังเกิดจากอะไร
มีหลายสาเหตุที่มักทำให้เกิดอาการปวดคอเรื้อรัง การทำความเข้าใจจะช่วยให้ทุกคนหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงได้
- อายุมากขึ้น หรือทำงานที่ต้องใช้กระดูกและกล้ามเนื้อคอเยอะ ส่งผลให้กระดูกต้นคอเสื่อม
- ป่วยโรครูมาตอยด์ เกาต์ หรือติดเชื้อบริเวณกระดูกสันหลัง ทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อต่อคออักเสบ
- ได้รับบาดเจ็บบริเวณลำคอหรือท้ายทอย เช่น หมอนรองกระดูกคอแตกหรือเกิดการเคลื่อนกดทับเส้นประสาทจากอุบัติเหตุ
- การนั่งท่าทางเดิมนาน ๆ โดยไม่มีการเปลี่ยนอิริยาบถ หรือการใช้ท่าทางของลำคอแบบผิดลักษณะ เช่น การก้ม ๆ เงย ๆ บ่อยครั้ง การนอนตกหมอน เป็นต้น
วิธีบรรเทาอาการปวดคอเบื้องต้น
หากคุณมีอาการปวดทั่วไป ไม่ถึงกับรุนแรงมากนัก สามารถบรรเทาอาการปวดคอเบื้องต้นได้ ดังนี้
- ทานยาลดอาการปวดร่วมกับการทานวดยาคลายกล้ามเนื้อ กรณีไม่ได้ปวดรุนแรงมากนัก
- ทำภายภาพบำบัด ยืดกล้ามเนื้อ เกร็งกล้ามเนื้อ ร่วมกับการประคบร้อน
- พบแพทย์เพื่อตรวจรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งแพทย์อาจให้สวมเฝือกคออ่อน ร่วมกับการทานยา และเน้นย้ำว่าอย่าขยับคอมากเกินไป
อาการปวดคอเรื้อรังที่ควรรีบพบแพทย์ทันที
แม้อาการปวดคอจะเป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อย แต่ถ้าคุณรู้สึกปวดแบบผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการปวดบริเวณคอ บ่า สะบัก ไหล่ ท้ายทอย ทั้งปวดแบบส่วนใดส่วนหนึ่งหรือปวดทั้งหมดเรื้อรังติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ แม้พยายามบรรเทาอาการเบื้องต้นแล้ว รวมถึงมีอาการอื่น ๆ ร่วม เช่น ปวดร้าวลงแขน-ขา กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชาปลายนิ้วมือ หยิบจับสิ่งของไม่ถนัด ขยับคอได้น้อย บางรายมีไข้ กดเจ็บ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีความรุนแรงมากกว่าแค่การปวดคอทั่วไป
วิธีรักษาอาการปวดคอเรื้อรังโดยแพทย์
แพทย์จะประเมินวิธีรักษาอย่างความเหมาะสมตามลักษณะอาการหรือความรุนแรงของผู้ป่วย เพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด
- การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวดกลับไปทาน ร่วมกับการใช้ยานวดคลายเส้น ลดอาการปวด
- การฉีดยาสเตียรอยด์บริเวณกล้ามเนื้อคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดของผู้ป่วย
- การทำกายภาพบำบัดโดยนักกายภาพบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญ
- การใช้เครื่อง Ultrasound หรือ Shortwave Diathermy เพื่อสร้างความร้อนลึกสู่ใต้ชั้นผิว
- ใช้เครื่องเอกซเรย์ เครื่อง CT Scan หรือ MRI เพื่อวิเคราะห์อาการ ตรวจดูสาเหตุอย่างละเอียด และอาจต้องมีการผ่าตัดเพื่อรักษารากประสาทหรือไขสันหลังถูกกดทับ
วิธีป้องกันอาการปวดคอเรื้อรัง
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ปวดคอทั้งระยะสั้นและเรื้อรัง เช่น การนั่งทำงานท่าเดิมนาน ๆ การนอนหมอนสูงเกินไป นอนหมอนขนาดเล็กไม่พอดีศีรษะ ลดกิจกรรมที่ต้องใช้คอเยอะ การก้มเงยบ่อย ๆ ร่วมกับการบริหารกล้ามเนื้อลำคออย่างสม่ำเสมอ เช่น การยืดกล้ามเนื้อคอ การนวดคอ เป็นต้น
สรุป
แม้อาการปวดคอสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกปวดคอเรื้อรัง ไม่หายขาดแม้พยายามรักษาเบื้องต้นแล้วก็ตาม แนะนำให้รีบพบแพทย์ หรือโรงพยาบาลเฉพาะทางที่มีเครื่องมือทันสมัย วิสัญญีแพทย์ชำนาญการ ใช้แพทย์จริงที่มีความเชี่ยวชาญด้านกระดูก แพทย์ด้านออโธปิติกส์เป็นผู้รักษาหลักมเพื่อตรวจวินิจฉัยสาเหตุอย่างถูกต้อง เสริมระบบ AI เป็นตัวช่วย และเข้ารับการรักษาด้วยความเหมาะสม ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะรุนแรงตามมาในอนาคต