ปวดซับซ้อนเฉพาะที่ (CRPS) คืออะไร? อาการ สาเหตุ และทางออกในการรักษา
โรคปวดซับซ้อนเฉพาะที่ (Complex Regional Pain Syndrome - CRPS) เป็นภาวะปวดเรื้อรังที่พบได้น้อยแต่มีผลกระทบต่อผู้ป่วยอย่างมาก โดยมักเกิดขึ้นหลังจากการบาดเจ็บหรือการผ่าตัดประมาณ 4-6 สัปดาห์ อาการปวดมักรุนแรงเกินกว่าที่คาดจากการบาดเจ็บ อาจส่งผลต่อการทำงานของเส้นประสาท ระบบไหลเวียนเลือด และระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
สาเหตุและพยาธิกำเนิด CRPS แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
- CRPS ประเภทที่ 1: เกิดขึ้นโดยไม่มีความเสียหายต่อเส้นประสาทที่ตรวจพบได้
- CRPS ประเภทที่ 2: มีความเสียหายต่อเส้นประสาทที่สามารถตรวจพบได้แม้ว่ากลไกของโรคยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างสมบูรณ์ แต่เกี่ยวข้องกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น การอักเสบ การทำงานผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ และการตอบสนองของสมองต่อความเจ็บปวด บางกรณีอาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางภูมิคุ้มกัน
- ปวดรุนแรงเกินกว่าที่คาดจากการบาดเจ็บ
- อาการปวดแสบ ปวดร้อน หรือรู้สึกคล้ายไฟช็อต
- การเปลี่ยนแปลงของสีผิว อุณหภูมิ และเหงื่อออกผิดปกติ
- อาการบวม กล้ามเนื้ออ่อนแรง และข้อตึง
- การเปลี่ยนแปลงของเล็บและขนในบางกรณีอาจลุกลามไปยังบริเวณอื่นของร่างกาย
การวินิจฉัย
ใช้ Budapest Criteria ในการวินิจฉัยทางคลินิก ร่วมกับการตรวจทางภาพ เช่น อัลตราซาวนด์หรือสแกนกระดูก(3-phase bone scan) เพื่อแยกโรคอื่นที่มีอาการคล้ายกัน เช่น ลิ่มเลือดอุดตันหรือโรคข้อเสื่อม
แนวทางการรักษา
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา CRPS ให้หายขาด แต่สามารถลดอาการปวดและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้โดยแนวทางต่อไปนี้:
1. การรักษาด้วยยา
- ยาแก้ปวดและต้านอักเสบ (Pain Relievers & Anti-inflammatory Drugs): ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), นาโพรเซน (Naproxen), แอสไพริน (Aspirin)
- ยาควบคุมอาการปวดจากระบบประสาท (Neuropathic Pain Medications): อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline), กาบาเพนติน (Gabapentin), พรีกาบาลิน (Pregabalin), มิโรกาบาลิน(Mirigabalin)
- ยาสเตียรอยด์ (Steroids): เพรดนิโซโลน (Prednisolone), เมทิลเพรดนิโซโลน (Methylprednisolone)
- ยาป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก (Bone Resorption Inhibitors): อะเลนโดรเนต (Alendronate), แพมิโดรเนต (Pamidronate)
- ยาทาภายนอกและแผ่นแปะแก้ปวด (Topical Medications & Pain Patches): ลิโดเคน (Lidocaine), แคปไซซิน (Capsaicin)
- ยาโอปิออยด์อย่างอ่อน เช่น ทรามาดอล(Tramadol) ,โคเดอีน(Codeine)
- ยาโอปิออยด์ ในกรณีที่มีอาการปวดรุนแรง เช่น มอร์ฟีน (Morphine), ออกซีคอนติน (Oxycontin), แผ่นแปะเฟนทานิล (Fentanyl patch)
- ยาเฉพาะทาง (กรณีรุนแรง) (Specialized Medications for Severe Cases): คีตามีน (Ketamine) ฉีดเข้าเส้นเลือดดำ
2. กายภาพบำบัด (Physical Therapy)
- การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว
- การฝึกสมอง เช่น Mirror Therapy เพื่อลดอาการปวด
3. การบำบัดทางจิตใจ (Psychological Therapy)
การให้คำปรึกษาและพฤติกรรมบำบัด (Cognitive Behavioral Therapy - CBT) เพื่อช่วยจัดการกับความเครียดและอารมณ์
4. การรักษาขั้นสูง (Advanced Treatments)
- บล็อกเส้นประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nerve Block)
- การกระตุ้นเส้นประสาท (Peripheral Nerve Stimulation)
- Spinal Cord Stimulation (SCS) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบดั้งเดิม ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า 40-85% ของผู้ป่วยสามารถลดอาการปวดได้อย่างมีนัยสำคัญ และ 50-70% ของผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นในระยะยาว
อาการของ CRPS อาจดีขึ้นได้ในบางราย แต่หลายคนต้องเผชิญกับอาการปวดเรื้อรังที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้อาการแย่ลง ได้แก่ อาการที่เกิดบริเวณแขนมากกว่าขา และ CRPS แบบ "เย็น" ที่มีอุณหภูมิผิวหนังต่ำลง
สรุป (Summary)
CRPS เป็นโรคที่ซับซ้อนและมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วย แม้ว่าจะไม่มีการรักษาที่ทำให้หายขาด แต่การดูแลแบบองค์รวมที่รวมถึงการใช้ยา กายภาพบำบัด และการบำบัดทางจิตใจ สามารถช่วยบรรเทาอาการและฟื้นฟูการทำงานของร่างกายได้ การวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะแรกเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงของอาการปวดเรื้อรังที่รุนแรงขึ้น